แนะนำสถานที่แสวงบุญ และเที่ยวในอินเดีย เนปาล ศรีลังกา อื่น ๆ

สังเวชนียสถาน 4 ตำบล อินเดีย เนปาล

สังเวชนียสถาน 4 ตำบล อินเดีย เนปาล

สังเวชนียสถาน ทั้ง 4 แห่งนั้นนับว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ชาวพุทธผู้ศรัทธา ตั้งใจว่าจะต้องเดินทางไปสักการะให้ได้สักครั้งในชีวิต เป็นการตามรอยพระพุทธเจ้าในดินแดนต้นกำเนิดศาสนาพุทธยังสถานที่ทั้ง 4 ที่อยู่ในประเทศอินเดีย และเนปาล ซึ่งก็มีความสำคัญตรงกับวันวิสาขบูชา อันได้แก่ วันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่แสดงปฐมเทศนาด้วย นับได้ว่าเป็นการเดินทางเพื่อความตื่นรู้ เบิกบาน และระลึกถึงพระพุทธเจ้าโดยแท้ เป็นสถานที่ควรไปเคารพสักการะ ควรไปแสวงบุญ เพื่อให้เกิดความสังเวช และเกิดพุทธานุสติ อันจักนำมาซึ่งบุญกุศลและความปลาบปลื้มแช่มชื่นใจ จากเนื้อความในมหาปรินิพพานสูตร แสดงให้เห็นว่าสังเวชนียสถานทั้งสี่นี้ได้เกิดขึ้นโดยคำตรัสของพระพุทธองค์ ที่ได้ตรัสว่า ผู้ใดระลึกถึงพระองค์ พึงจาริกไปยังสังเวชนียสถานทั้งสี่นี้ (ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ) ได้แก่ลุมพินีวัน สถานที่ประสูติแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า, ธัมเมกขสถูป สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า, กุสินาราสถานที่ดับขันธปรินิพพาน จักมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่หมาย เริ่มฤดูกาลแสวบุญในช่วงเดือน พ.ย. - มี.ค.ของทุกปี โดยมีการเริ่มจองทริปตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษา เป็นต้นไป

นครสีชมพู ชัยปุระ

ฮาวามาฮาล เมืองสีชมพู ชัยปุระ

จัยปูร์ (Jaipur) หรือ ชัยปุระ เป็นเมืองหลวงของ รัฐราชสถาน (Rajastan) ประเทศอินเดีย และยังเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 10 ของประเทศอีกด้วย โดยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย นครแห่งนี้เคยรุ่งเรืองในแถบตะวันออก และขึ้นชื่อเรื่องการวางผังเมืองได้เป็นอย่างดี บริเวณใจกลางเมืองแบ่งผังเมืองเป็นตารางพร้อมถนนล้อมรอบสี่ด้านสวยงาม และเป็นระเบียบ สามารถจัดทริปได้จากเดลี อักรา ชัยปุระ ได้อย่างสะดวกสบาย หรือ ไหว้พระที่พุทธคยา ไปพาราณสี แล้วบินภายในต่อไปยังชัยปุระ อักรา เดลี ได้อย่างชิล ชิล หรือท่านสนใจทริปล่องแคว้นแดนราชา มีชัยปุระ จ๊อดปูร์ อุทัยปูร์ ไจซาลแมร์ ครบ สุดยอดของความประทับใจเลยทีเดียว แนะนำให้เดินทางฤดูหนาว คือ จากเดือน พ.ย. - ก.พ. ของทุกปี ดีที่สุด

ชัยปุระชัยปุระ

อักรา ทัชมาฮาล

ทัชมาฮาล

ในฤดูหนาว หากว่าได้เดินทางมายังทัชมาฮาลช่วงเช้า ๆ บรรยากาศแสนโรแมนติก ท่านจะไม่พลาด เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สมกับคำว่า มหัศจรรย์อินเดีย หากว่าท่านไม่ชอบให้คนเยอะ แนะนำเดินทางช่วงเดือน เมษายน - ตุลาคม ข้อเสียคือ อากาศค่อนข้างร้อน

อักรา ฟอร์ท

ดารัมซาลา มะนาลี ชิมลา เส้นทางอ้อมกอดหิมาลัย

เขาตรีอูน

ยอดเขาตรีอูน ดารัมซาลา

ชิมลา

ชิมลายามอากาศสดใส

ชิมลา มะนาลี ดารัมซาลา

ชิมลา เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของรัฐหิมาจัลประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในอ้อมกอดหิมาลัย ด้วยเส้นทางในฝันของใครหลาย ๆ คน ดารัมซาลา มะนาลี ชิมลา แสนโรแมนติก เหมาะกับการเดินทางช่วงเดือน เมษายน - ตุลาคม

เลห์ ลาดัก แคชเมียร์

แคชเมียร์

เลห์ ลาดัก แคชเมียร์

หนึ่งในเส้นทางในฝันของใคร ๆ คน เลห์ ลาดัก แคชเมียร์ เป็นเส้นทางสายโรแมนติก ขุนเขากับผืนฟ้าอันกว้างไกล ไปแล้ว ท่านจะประทับใจมิรู้ลืม แนะนำให้เดินทางช่วงเดือนพฤษภาคม - พฤศจิกายน ได้เลย

สิกขิม อ้อมกอดหิมาลัย

ดาร์จีลิ่ง

ดาร์จีลิ่ง ราชินีแห่งขุนเขา

สิกขิม ดาร์จีลิ่ง อ้อมกอดหิมาลัย กับ ราชินีแห่งขุนเขา

สิกขิม นี่อินเดียหรือสวิสเซอร์แลนด์ ให้ภาพบรรยาย แนะนำเดินทางเส้นทาง โกลกัตตา ดาร์จีลิ่ง สิกขิม สะดวกที่สุด ช่วงเดือนมีนาคม - ตุลาคม

***************************************************

ศรีลังกา เสน่ห์แดนพุทธศาสนา

วัดเกลายานี โคลัมโบ

วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร อยู่ห่างจากกรุงโคลัมโบประมาณ 13 กิโลเมตรทางทิศเหนือ วัดแห่งนี้มีความสำคัญต่อชาวพุทธศรีลังกาเพราะเชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เป็นสาวกอีก 500 รูปได้เคยเสด็จมายังวัดแห่งนี้ในวันวิสาขบูชาตามคำเชิญของเจ้าผู้ครองแคว้น กัลยาณี ซึ่งเป็นพญานาค นามว่า มณีอัคขิกะ ซึ่งปัจจุบัน ในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวผุดผ่องขนาดมหึมาซึ่งชาวพุทธศรี ลังกาเชื่อว่าเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระแท่นบัลลังค์ที่องค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวมาโปรดพญานาคมณีอัคขิกะและบริวาร

วัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกช่วงประมาณปี พ.ศ. 300 โดยกษัตริย์ยัฎฐาลาติสสะ เจริญรุ่งเรืองสูงสุดในรัชสมัยพระเจ้าปรากรมพาหุที่ 6  แห่งราชอาณาจักรโกฏเฏ ซึ่งโปรดให้สร้างวัดแห่งนี้ให้เป็นวัดที่ยิ่งใหญ่ มีสิ่งปลูกสร้างมากมาย มีพระสงฆ์พำนักนับร้อย จนกลายเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาที่สำคัญ และได้ถูกบรรยายว่าวัดแห่งนี้งดงามราวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2048 วัดได้ถูกผู้รุกรานชาวโปรตุเกสเผาทำลายลงจนสิ้นซาก

 ต่อมากษัตริย์กีรติศรีราชสิงหะ ซึ่งปกครองราชอาณาจักรแคนดี้ ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2290 - 2325 ได้ทำข้อตกลงกับผู้ปกครองลังกาในยุคนั้น คือ ฮอลันดา ให้สามารถส่งพระสงฆ์เข้าไปบูรณะวัดได้ ดังนั้น เมื่อปี 2310 ได้โปรดให้พระมปิฏิกามะ พุทธรักขิตตะเถระ พร้อมพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเดินทางไปปฏิสังขรณ์วัด แต่เหตุการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวายซึ่งส่งผลให้ลังกากลายเป็นอาณานิคมของ อังกฤษใด้ทำให้ภารกิจดังกล่าวต้องชะงักลง

ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2431 นางเฮเลนา วิเจวาร์เดนา เศรษฐีนีแห่งกรุงโคลัมโบได้สนใจและได้อุทิศทรัพย์สินในการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัด ดังนั้น สิ่งปลูกสร้างที่พบเห็นในบริเวณวัดในปัจจุบันจึงเป็นผลจากแรงศรัทธาของเธอ และครอบครัวทั้งสิ้น จุดเด่นที่สำคัญของวัดคือพระวิหาร ซึ่งประกอบด้วยพระนอน ห้องประดิษฐานพระสารีริกธาตุ และภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องชาดก พุทธประวัติ และเหตุการณ์สำคัญทางพุทธศาสนาในศรีลังกา ซึ่งภาพเหล่านั้นเป็นผลงานของนายโสริอัส เมนดิส ศิลปินชื่อดังของศรีลังกาที่ได้อุทิศเวลากว่า 20 ปีในการรังสรรค์ภาพจิตรกรรมที่งดงามดังกล่าว 

ยังมีความเชื่อด้วยว่า วัดเกลาณียะเป็นที่สถิตของเทพวิภิศณะ หรือพระยาพิเภก น้องชายของท้าวทศกัณฑ์ ซึ่งพระรามมอบหมายให้ปกครองกรุงลงกาสืบแทน และเชื่อกันว่าเทพวิภิศณะนั้นศักดิ์สิทธินัก หากบนบานขอบุตรธิดากับท่าน ก็มักจะสำเร็จตามความปรารถนาทุกราย

ประเพณีแห่พระบรมธาตุเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ ณ เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา

แห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา

ขบวนแห่พระธาตุเขี้ยวแก้วในวันสุดท้ายแสนยิ่งใหญ่ และศักดิ์สิทธิยิ่ง

ประเพณีแห่พระบรมธาตุเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์

หนึ่งปีมีเพียง 11วัน10คืน ถือเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีของชาวศรีลังกา ประชาชนร่วมงานกว่า 200,000 คนต่อวัน เทพอุดมธรรม ทราเวล จัดรอบพิเศษ 17 - 22 ส.ค. 2567 - ทริปแสวงบุญศรีลังกา และชมแห่พระเขี้ยวแก้ว ที่นั่ง VIP รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ที่ เท่านั้น ราคาเริ่มต้น 49,500 บาท ราคานี้รวมที่นั่ง VIPและตั๋วเครื่องบินแบบไปกลับ บิน ศรีลังกาแอร์ไลน์ เรียบร้อยแล้ว พักโรงแรม 5 ดาว สนใจสอบถามเพิ่มเติม โทร 093 - 641 5479

เทศกาลแห่พระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา จัดขึ้นทุกปีประมาณเดือนสิงหาคม ระยะเวลา 10 คืนและอีก1วัน ถือเป็นงานมงคล สมโภชพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว ประจำปีของชาวศรีลังกา

พระราชวังลอยฟา สิกิริยา ศรีลังกา

สิกิริยา พระราชวังลอยฟ้า

ทางขึ้นยอดเขาสิกิริยาตรงขาสิงห์

พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา

สิกิริยา มีประวัติความเป็นมายาวนาน นับตั้งแต่พุทธปรินิพพานได้ 277 ปี พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ได้เสด็จประพาสและตั้งชื่อภูเขาแห่งนี้ว่าสีหคีรี ซึ่งแปลว่า เขาสิงห์ ต่อมาใน พ.ศ.440-454 พระเจ้าปุลหัตถะได้สร้างป้อมพร้อมศาลาโรงธรรมไว้ที่นี่ ในรัชสมัยของพระเจ้าพาหิยะได้สืบทอดเจตนารมณ์ของพระราชบิดาโดยการสร้างโรงทานสำหรับพระภิกษุ จนมาถึงในรัชสมัยพระเจ้ากัสสปะ พ.ศ.1020 ได้ทรงสร้างสีหคีรีนี้เป็นป้อมปราการและเป็นพระบรมมหาราชวังด้วย

การที่จะสร้างให้สิกิริยาเป็นราชธานนี้ มีมาตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าธาตุเสน ราชธานีของพระองค์อยู่ที่อนุราชปุระ พระองค์มีพระราชประสงค์จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มีอำนาจทั้งฟ้าและดิน จึงต้องหาที่สร้างวังบนยอดเขา ต่อมาเจ้าชายกัสสปะพระราชโอรสผู้ประสูติจากมเหสีฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นหญิงสามัญชน ได้ยึดอำนาจการปกครองจากพระเจ้าธาตุเสน ทำให้เจ้าชายโมคคัลลาน์ รัชทายาทซึ่งประสูติจากสมเด็จพระราชินีต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศอินเดีย

หลังจากเจ้าชายกัสสปะ ได้จับพระราชบิดาขังคุกแล้วโบกปูนปิดทับทั้งที่ยังมีพระชนม์ชีพ จากนั้นก็สถาปนาพระองค์เองเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงไม่โปรดที่จะครองราชย์อยู่ที่อนุราธปุระ ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ที่สิคีริยา ใช้เวลาในการสร้างนาน 7 ปี พระเจ้ากัสสปะครองราชย์อยู่นาน 18 ปี ก็ถูกเจ้าชายโมคคัลาน์ พระอนุชาต่างพระมารดา ยกทัพมาจากประเทศอินเดียมาชิงพระราชบังลังก์คืน ทรงล้อมสีหคีรีไว้แน่นหนา พระเจ้ากัสสปะไม่มีทางสู้ จึงตัดสินพระทัยปลิดพระชนม์ชีพพระองค์เองในพระราชวังบนขุนเขาแห่งนี้

เป็นหนึ่งในหมุดจุดหมายของการเดินทางไหว้พระที่ศรีลังกา โดยเริ่มจาก โคลัมโบ อนุราธปุระ ดัมบุลลา สิกิริยา แค่นดี้ กราบพระธาตุเขี้ยวแก้ว ไร่ชซีลอนอันเลื่องชื่อ สนใจติดต่อเราแล้วท่านจะไม่ผิดหวัง

เมืองนูวาร่า เอลิยา เมืองอังกฤษน้อย อากาศดีตลอดปี 17 องศา

ไร่ชา ศรีลังกา

ศูนย์ไปรษณีย์สไตล์โคโลเนี่ยล

เมืองไร่ชาซีลอน

ยุคสมัยอาณานิคมอันรุ่งเรืองของอังกฤษได้ยึดครองดินแดนเป็นจำนวนมาก ประเทศศรีลังกาก็เป็นอีกที่หนึ่งที่อังกฤษได้เข้ามายึดครอง ช่วงปีพ.ศ.2358-2491 ความที่ชาวอังกฤษเป็นคนเมืองหนาว ดังนั้นเมื่อไปอยู่ที่ดินแดนแห่งใหม่พวกเขามักจะหาที่พำนักเป็นเมืองกลางหุบเขาที่อากาศเย็นสบาย เมืองนูวารา เอลิยาตั้งอยู่บนที่สูงประมาณ 1868 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อุณหภูมิภูมิเฉลี่ย 10-17 องศาเซลเซียส

อดีตเมืองตากอากาศของอังกฤษและเมืองแห่งใบชาจนถึงปัจจุบัน ช่วงก่อนที่จะเข้าถึงเมืองนี้ เราได้สัมผัสถึงความสดชื่นเย็นฉ่ำ ทิวทัศน์อันน่ามหัศจรรย์ปรากฏอยู่ตามข้างทาง ภูเขาสูงที่อยู่ด้านข้างของถนนเขียวชะอุ่ม มีฝนตกโปรยปราย ทั้งยังเห็นเส้นน้ำของน้ำตกที่ไหลลงมาให้เห็นกันอย่างชัด ๆ ข้างทาง ช่วงใกล้เมืองได้เห็นไร่ชาซีลอนครอบครองพื้นที่บนเนินเขา เห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ของอาณาจักรชา Mackwoods ผู้เป็นตำนานยุคบุกเบิกการทำไร่ชาของศรีลังกา เมืองนี้ยังมีอาคารสวยแบบยุคอาณานิคมเหลืออยู่หลายแห่ง อย่างเช่น ตึกที่ทำการไปรษณีย์ โรงแรมแกรนด์โฮเต็ล ด้านหน้าโรงแรมเป็นระเบียงเปิดชมสวน ขายชาซีลอนหลากกลิ่นหลากรส

ยังมีลูกเล่นน่ารัก ๆ ของเด็กหนุ่มนักขายดอกไม้ ช่วงขากลับพวกเขาจะดักรอนักท่องเที่ยวอยู่ข้างทาง ในช่วงของถนนที่มีความคดเคี้ยวไปมา เริ่มจากเขามายืนเสนอขายให้เห็นหน้าครั้งแรก หากว่ายังไม่ซื้อเขาก็จะวิ่งไถลตัวลงไปดักหน้าอยู่ด้านล่างอีกรอบ เหมือนหายตัวเปลี่ยนที่ได้ คอยชักชวนด้วยอัธยาศัยไมตรีอย่างน่าเห็นใจ ซึ่งก็ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยใจอ่อน ยอมซื้อดอกไม้ช่อโตซึ่งสวยงามสะพรั่งเต็มอ้อมแขน

เป็นหนึ่งในเส้นทางไหว้พระศรีลังกา ของ เทพอุดมธรรม ทราเวล ด้วย

โพคาร่า ดินแดนป่าหิมพานต์

โพคาร่า เนปาลยอดเขามัจฉาปูชาเร

แสงแรกแห่งโพคารา

เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของเนปาลที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์อยู่ในวงล้อมหุบเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 884 เมตรเป็นจุดที่สามารถชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุด เนื่องจากอยู่ห่างจากบริเวณเทือกเขาหิมาลัยเพียง 30 กิโลเมตร รวมทั้งเป็นสถานที่ที่นักเดินทางผจญภัย เดินป่า ไต่เขา ล่องแพ นิยมเดินทางมายังเมืองนี้ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางขึ้นเขาหิมาลัยเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกคือ “ยอดเขาเอเวอร์เรสต์” นั่นเอง เส้นทางนี้ท่านสามารถเที่ยวกาฐมัณฑุ นากาก๊อต อันนาบูรณา ได้อีกด้วย ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

เส้นทางสายคาราโครัมไฮเวย์ ปากีสถาน สวยสดงดงามราวภาพวาด

ปากีสถานสายคาราโครัม ไฮเวย์ปากีสถานสายคาราโครัม ไฮเวย์

แฟรี่มิโดว์ ปากีสถาน

แฟรี่มิโดว์

“คาราโครัมไฮเวย์” ถนนลอยฟ้ากับความสวยที่ไม่มีใครทัดเทียม

บทสรุปของการเดินทาง 10 วัน 9 คืน บนหนึ่งในถนนไฮเวย์ที่สวยที่สุดในโลก

ผจญภัยทุกสภาพภูมิประเทศตั้งแต่ ทะเลทราย ทะเลสาบ ที่ราบสูง ทุ่งหญ้า จนถึงภูเขาหิมะ หนึ่งในเส้นทางแห่งความฝันของเหล่านักเดินทางที่ชีวิตนี้ควรต้องมาเห็นด้วยตาตนเอง สัมผัสด้วยใจสักครั้ง ความปลอดภัยในการเดินทางที่อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ในปัจจุบัน การเดินทางที่ทำได้สะดวกสบายมากขึ้นเพราะมีทั้งไฟลต์บินตรงจากกรุงเทพ และสามารถต่อสายการบินในประเทศเพื่อประหยัดเวลาการเดินทางได้อีกขั้น ที่พักที่มีให้เลือกหลากหลาย อาหารที่รสชาติถือว่าไม่เลว และที่แน่นอนอัธยาศัยไมตรีของคนที่นี่นั้นพร้อมจะมอบมิตรภาพให้เราตลอดเวลา เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่ผมจะชอชวนทุกๆคน มาร่วมเดินทางไปพร้อมกับผมอีกสักครั้งในเส้นทาง “คาราโครัมไฮเวย์”

ปากีสถาน

บาหลี อินโดนีเซีย

บาหลี

บุโรพุทโธ

บุโรพุทโธ

มหัศจรรย์ BALI บุโรพุทโธ

พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ ศาสนสถานแห่งศาสนาพุทธ สร้างขึ้นมากว่าพันปีแล้ว เป็นสถูปแบบมหายานที่สร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ ประกอบไปด้วยหินภูเขาไฟที่มีความแข็งแรงทนทานที่แต่ละก้อนต่อเติมกันจนกลายเป็นบุโรพุทโธอันยิ่งใหญ่ มีความงดงามในแบบศิลปะฮินดู-ชวา ตั้งอยู่บนเนินสูงจากพื้นดินราว 15 เมตร จึงเป็นที่มาของชื่อ บุโรพุทโธ ที่แปลว่า วิหารที่สร้างบนภูเขาสูง

ยูเนสโกได้ยกย่องให้บุโรพุทโธเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ กลุ่มวัดบรมพุทโธ เมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่ผ่านการสร้างสรรค์อันชาญฉลาด มีอิทธิพลในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาทางสถาปัตยกรรม และมีความโดดเด่นในประวัติศาสตร์

บุโรพุทโธ ถือเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่ถึง 2 ล้านตารางฟุต ที่มีความกว้างด้านละ 121 เมตร สูง 403 ฟุต ลองคิดภาพตามว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน

บุโรพุทโธจะมีอยู่ 3 ส่วนหลักๆ คือ

ส่วนที่ 1 ส่วนฐาน เป็นลาน 4 เหลี่ยม เรียกว่า กามภูมิ กำแพงรอบฐานมีภาพสลักอันงดงาม ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ยังมีความรักโลภโกรธหลง
ส่วนที่ 2 เป็นลานวงกลม เรียกว่า รูปภูมิ เป็นระเบียงที่สลักเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ และชาดกต่างๆ เป็นขั้นตอนที่มนุษย์เริ่มหลุดพ้น 
ส่วนที่ 3 เป็นสถูป เรียกว่า อรูปภูมิ มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ 72 องค์ ภายในเจดีย์แต่ละองค์บรรจุพระพุทธรูป ล้อมรอบสถูป และรูปปั้นพระพุทธรูปที่เรียงรายลดหลั่นกันอยู่ 3 ชั้น ส่วนเจดีย์องค์ใหญ่สุดไม่ได้บรรจุสิ่งใดไว้ เห็นถึงความว่าง คือเข้าสู่นิพพาน

ทั้งยิ่งใหญ่ และเต็มไปด้วยเรื่องราว ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต หากใครยังไม่มีแพลนไปไหน ลองไปดื่มด่ำกับอารยธรรมแห่งพระพุทธศาสนาที่บุโรพุทโธกันดีกว่า

ท่านสามารถบินภายในได้ภายในวันเดียว หรือ ค้างคืนเกาะชวาซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาเจดีย์บุโรพุทโธ แล้วไปเดินช๊อปปิ้งที่ถนนคนเดิน แล้วท่านจะประทับใจมิรู้ลืม

มหาเจดีย์ชเวดากอง

มหาเจดีย์ชเวดากองมหาเจดีย์ชเวดากอง

เจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาสิงคุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยคำว่า "ชเว" หมายถึง ทอง, "ดากอง" แผลงเป็น, ภาษามอญเรียกชื่อว่า ตะเกิง) คือชื่อดั้งเดิมของเมืองย่างกุ้ง[ เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระโคตมพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ยอดสุดขององค์เจดีย์บริเวณลูกแก้วหรือหยาดน้ำค้างประดับด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ และเพชร 5,448 เม็ด ชั้นบนสุดมีทับทิม 2,317 เม็ดและเพชรเม็ดใหญ่ 76 กะรัต เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมจะต้องถอดรองเท้าทุกครั้ง

ปัจจุบันเดินทางได้แล้วด้วยความสะดวกโดยมีสายการบินบินตรงจากกรุงเทพ ย่างกุ้ง พักย่างกุ้งสักคืน หรือ ไปเที่ยวต่อที่พระธาตุอินแขวนก็ย่อมได้ ชิล ๆ

พระธาตุอินแขวน

พระธาตุอินแขวน พม่า

พุกาม

พุกาม มัณฑะเลย์

มัณฑะเลย์

พระมหามัยมุนีพระมหามัยมุนี มัณฑะเลย์

ดินแดนมังกร​สายฟ้า​แห่งเทือกเขาหิมาลัย

วัดทักซัง

วัดทักซัง หนึ่งในไฮไล้ของทริปภูฏาน

วัดทักซัง (The Tiger’s Nest) นี้ตั้งอยู่ที่เมืองพาโร ประเทศภูฏานค่ะ เป็นสถานที่แห่งศรัทธาสำคัญของประเทศ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยความงดงามและมนต์เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกนั่นเอง

ทักซัง แปลว่า “รังเสือ” เล่าสืบต่อกันมาเป็นตำนานว่า กูรูรินโปเซทรงขี่นางเสือเหาะมา แล้วเข้าบำเพ็ญสมาธิอยู่ในถ้ำรังเสือนานถึงสามเดือน แล้วสำแดงกายให้เห็นในภาคกูรูโดร์จีสะกดภูติผีปิศาจร้ายแล้วเทศนาสั่งสอนผู้คนในหุบเขาพาโรจนหันมายอมรับนับถือพุทธศาสนากันนั่นเอง 

ภูฏาน

พูนาคาซอง
ป้อมปราการประจำเมืองพูนาคา ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโพและแม่น้ำโม สร้างในปี ค.ศ.1637 โดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล เคยเป็นเมืองหลวงของภูฏานนานถึง 300 ปี ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการบริหารปกครองเขตพูนาคา องค์กรสงฆ์ส่วนกลางจะย้ายมาที่นี่นาน 6 เดือนเต็มในฤดูหนาว เนื่องจากพูนาคาซองอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร ต่ำกว่าเมืองทิมพูที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,400 เมตร จึงมีภูมิอากาศอบอุ่นกว่า

ควรเดินทางช่วงที่ปลอดจาหน้าหนาวจัด ๆ แล้ว คือช่วงตั้งแต่ เมษายน - กันยายน ดีที่สุด

ภูฏาน ดินแดนมัางกรสายฟ้า

เที่ยวภูฏาน:

คิมหันต์และมนตรา

เดินทางให้รู้ว่า ชีวิตเราก็เท่านี้

 ‘ภูฏาน’ ดินแดนมหัศจรรย์ที่สามารถเปลี่ยนทัศนคติการใช้ชีวิตจากการท่องเที่ยวเพียง 5 วัน ประเทศที่ปกคลุมด้วยคาถาบริกรรมจากธงมนตรา เชื้อเชิญให้เราไปสัมผัสความเรียบง่ายแสนธรรมดาในหน้าร้อน และตื่นตะลึงกับความงดงามจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ด้วยตาเนื้อของตัวเอง

เสมือนหนึ่งเราถูกสะกดจากธงมนตาที่ชาวบ้านใช้ภาวนา มีหลายหลาก ๕ สีตามรายทาง แทนความหมายสำคัญของดิน น้ำ ลม ไฟ และชีวิต และร่วมเคารพบูชาสถูปหรือโชว์เต็นตามทางแยก ที่ชาวบ้าน คนแก่กำลังเดินทักษิณา และที่เห็นตั้งเด่นสง่างามแต่ไกลๆ คือซองหรือวัดรูปทรงเหลี่ยมแต่งลวดลายโบราณตามวัฒนธรรมภูฏาน มักอยู่ตามยอดเขาหรือที่ราบสูงให้ผู้คนศรัทธาธรรมตามหมู่บ้านต่างๆ

ท่ามกลางภูเขาที่ล้อมรอบเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี น้ำตกที่ไหลลงมาเป็นสายน้ำลำธารตลอดเส้นทางดุจประหนึ่งเรากำลังอยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติ อบอวลด้วยมิตรไมตรีของผู้คนข้างทางที่ผ่านไปโบกมือให้เราอย่างต้อนรับ พร้อมรอยยิ้ม ยิ่งเด็กด้วยแล้ว แก้มเป็นสีแดงน่ารักเพราะอากาศเย็นทำให้เลือดสูบฉีด ทุกครั้งที่เรามองลอดออกไปทางหน้าต่างรถเราจะได้รับการต้อนรับจากชาวภูฏานที่พบเห็นไม่เว้นแม้แต่เด็กที่หยุดและโบกมือยิ้มให้

นี่คือดินแดนแห่งธรรม ธรรมชาติแยกไม่ออกจากชีวิตที่ต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง

ภูฏานกับธงมนตราภูฏานภูฏานพาโร ภูกานภูฏานยามค่ำคืนภูฏานดินแดนมังกรสายฟ้า

thepudomdham brand logo
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า Trustmarkthai
© 2024 เทพอุดมธรรม ทราเวล
TAT LICENSE