คาราโครัมไฮเวย์

โปรแกรมการเดินทางทัวร์ ปากีสถาน – คาราโครัมไฮเวย์

ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway) ถนนที่สูงและสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เดินเขาสู่หุบเขาแห่งเทพนิยายแฟรี่มีโดวส์สวรรค์บนดินที่มีอยู่จริง เต็มอิ่มกับอารยธรรมโบราณที่ฮุนซาวัลเลย์ เที่ยวกันแบบเต็มอิ่มครบมนต์เสน่ห์แห่งปากีสถานในช่วงเวลา 9 วัน 8 คืน

โปรแกรมการเดินทางทัวร์ ปากีสถาน – คาราโครัมไฮเวย์ ประจำปี พ.ศ. 2566

บินภายในประเทศ 1 ไฟลต์ และ เดินทางกลุ่มเล็กไม่เกิน 20 ท่าน

xx กรกฎาคม - xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx

แผนการเดินทางทริปทัวร์ปากีสถาน

ออกเดินทางจากกรุงเทพวันที่ xx กรกฎาคม กลับมาถึงไทย วันที่ xx สิงหาคม

xx กรกฎาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 1 : กรุงเทพ  – อิสลามาบัด (Islamabad)  ปากีสถาน 

  • 16.00 น. ทุกท่านพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ชั้น 4  ทางออกที่ 4  เคาน์เตอร์สายการบินไทย พบกับทีมงานที่จะคอยดูแลและอำนวยความสะดวก

  • 19.00 น. ออกเดินทางไปยัง เมืองอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน  ด้วยสายการบินไทย TG 349 ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง 10  นาที

  • 23.00 น. เดินทางถึง สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) ประเทศปากีสถาน จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมือง อิสลามาบัด (Islamabad) ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

  • ตามเวลาคาดการณ์ ท่านจะเดินทางถึงโรงแรมที่พักในช่วงเวลาประมาณ 01.00 – 02.00 น. ซึ่งในวันแรกจะถือว่ามีเวลาพักผ่อนค่อนข้างน้อย

  • ที่พัก โรงแรม Legend Hotel Islamabad หรือเทียบเท่า*

Legend Hotel Islamabad

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 2 : อิสลามาบัด (Islamabad) – สการ์ดู (Skardu)

  • เช้ามืด รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม แบบกล่อง (ขึ้นอยู่กับไฟลต์ว่าเป็นเวลาใด)

  • 05.00 – 06.00 น. ออกเดินทางกลับไปที่ สนามบินอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางสู่เมือง สการ์ดู (Skardu) ไฟลต์บินจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านวิวทิวทัศน์ที่งดงาม (ไฟลต์บินยังไม่ระบุเวลา โดยจะเลือกไฟลต์ที่เหมาะสมที่สุดแก่การเดินทาง ปกติมักจะเป็นไฟลต์เช้า)

  • สาย – เที่ยง เดินทางถึงเมือง สการ์ดู (Skardu) เขตปกครองตนเอง กิลกิต-บัลติสถาน (Gilgit-Baltistan) ดินแดนแห่งเทือกเขาคาราโครัมที่ยิ่งใหญ่

  • รับประทานอาหารเที่ยง ร้านอาหารท้องถิ่น

  • จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านชิการ์ เที่ยวชมสถานที่น่าสนใจภายในหมู่บ้าน

  • Katpana Desert (Cold desert) ทะเลทรายเย็น หรือที่รู้จักในชื่อ ทะเลทรายคัทปานา เป็นทะเลทรายบนระดับความสูงที่ตั้งอยู่ในกิลกิต-บัลติสถาน ประเทศปากีสถาน ทะเลทรายมีเนินทรายขนาดใหญ่ที่บางครั้งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ทะเลทรายเย็นตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,226 เมตร (7,303 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่สูงที่สุดในโลก

  • Shigar Valley ประตูสู่ยอดเขาที่ยิ่งใหญ่ของ Karakorams, Gasherbrum และ K2 อยู่ห่างจาก Skardu ระยะทาง 23 กม. เนินลาดชลประทานที่อ่อนโยนของหุบเขาชิการ์นั้นเต็มไปด้วยทุ่งข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวบาร์เลย์ สวนผลไม้ที่มีทั้งแอปริคอต มัลเบอร์รี่ ลูกพีช ลูกพลัม ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และถั่วต่างๆ ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะในบัลติสถาน ชมมัสยิดไม้กลางเมืองสร้างโดยช่างไม้ชาวแคชเมียร์เมื่อหลายร้อยปีก่อน

  • ที่พัก Serena Shigar Fort

  • เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

Serena Shigar FortShigar Valley

xxสิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 3 : สการ์ดู (Skardu)

  • รับประทานอาหารเช้า ภายในโรงแรม

  • ชมสถานที่น่าสนใจภายในโรงแรมที่เป็นเสมือนหนึ่ง Living museum จากนั้นเดินทางกลับเมืองสการ์ดู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร

  • ท่องเที่ยวภายในเขตเมืองสการ์ดู

  • ทะเลสาบแชงกรีลา (Shangrila) ห่างจากสการ์ดูประมาณ 32 กม.และนั่งรถจี๊ป 1 ชั่วโมง ทะเลสาบแชงกรีลาลึกอันเงียบสงบที่ส่องประกายระยิบระยับ เรียกอีกอย่างว่า ทะเลสาบคาชูรา (Kachura lake) ซึ่งเต็มไปด้วยปลาเทราต์สีน้ำตาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ที่แปลกใหม่และหลากสีสันจะประดับประดาริมฝั่ง ในขณะที่ต้นพีช แอปริคอท และต้นแอปเปิลจะบานสะพรั่งในเดือนเมษายน ต่อมาในฤดูร้อนจะได้ชิมแอปเปิลซึ่งมีรสชาติอร่อยหลากหลาย

  • กิจกรรม ล่องเรือในทะเลสาบ

  • ช่วงบ่าย – เย็น เดินขึ้น ป้อม Kharpocho ป้อมปราการโบราณที่เรียกว่า King of Forts ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นเมือง สร้างขึ้นโดยอาลี เชอร์ ข่าน อันชัน ผู้ปกครองบัลติสถานจนถึงปลายศตวรรษที่ 16 แม่น้ำสินธุอันยิ่งใหญ่ที่เลื้อยคลานอยู่ใต้เท้าของคุณเพียงไม่กี่เมตรท่ามกลางหาดทรายสีขาวสีเงินเป็นภาพที่น่าประทับใจ

  • ที่พัก โรงแรม Serena Shigar Fort หรือเทียบเท่า

Serena Shigar FortShangrila

xxสิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 4 : สการ์ดู (Skardu) – ฮุนซาวัลเลย์ (Hunza valley) – คาริมาบัด (Karimabad) ระยะทางนั่งรถ 286 กิโลเมตร

  • เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ระยะทางประมาณ 286 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

  • เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น ที่เมืองกิลกิต

  • บ่าย เข้าเขตหุบเขาฮุนซา แวะ จุดชมวิวราคาโพชิ (Rakaposhi View Point) ที่มีความสูง 7,790 เมตร

  • เดินทางถึง เมืองคาริมาบัด (Karimabad) เมืองหลวงของ หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) ที่อยู่ในระดับความสูง 2,438 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า เมืองบัลติท (Baltit) ซึ่งเคยเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจปกครองตนเองเป็นเวลานานหลายร้อยปี ซึ่งชาวบ้านในเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายอิสมาอิล

  • ชม ป้อมบัลติท (Baltit Fort) ที่มีความเก่าแก่กว่า 750 ปี สร้างโดยเจ้าหญิงและบัลติสถาน (Baltistan) ภายหลังการอภิเษกสมรสกับเจ้าชาย ณ เมืองแห่งนี้ ซึ่งทำให้ป้อมปราการแห่งนี้เป็นอดีตพระราชวังหลวงที่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแคชเมียร์หรือทิเบตและได้รับการต่อเติมขยายส่วนต่างๆมากมายจนกระทั่งในสมัยของที่อังกฤษได้เข้ามาปกครอง ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ Aga Khan Foundation ทำให้เกิดการฟื้นคืนชีวิตให้ป้อมปราการแห่งนี้หลังจากถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน

  • ชม ป้อมอัลติท (Altit Fort) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่อายุนานที่สุดในหุบเขาฮุนซา ป้อมอัลติทตั้งอยู่บนหน้าผ่านริมแม่น้ำฮุนซามีความสวยงามเป็นอย่างมาก เราจะเห็นยอดเขาสูงจำนวนมากที่อยู่บริเวณนี้

  • หลังจากนั้นชมวิถีชีวิตของชาวปากีสถานกันที่ Hunza Traditional Bazar เป็นตลาดพื้นเมืองที่มีของที่ระลึกให้ท่านเลือกสรรมากมาย

  • เดินทางไปชม ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2010 (Attabad Disaster) ลงมากั้นแม่น้ำฮุนซ่า จนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์แบบนี้ซึ่งทะเลสาบนี้มีความยาว 21 กิโลเมตร และความลึก 100 เมตร รอบๆทะเลสาบบางส่วนจะเห็นดินที่ถล่มลงมาจนกลายเป็นเขื่อนกั้นทะเลสาบ ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมทางน้ำจำนวนมากเช่น ขี่เจ็ตสกี หรือว่าจะเป็นการล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบ

  • เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • ที่พัก โรงแรม Famree resort  หรือเทียบเท่า*

Famree resortทะเลสาบคาชูรา

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 5 : หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) – เมืองกิลกิต (Gilgit) ระยะทางนั่งรถ 180 กิโลเมตร

  • เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • นำท่านชม สะพานแขวนฮุซซานี (Hussaini Suspension bridge) ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพของ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง เดินทางต่อสู่ ธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier)

  • เดินทางสู่ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley) ท่านจะได้พบกับ Passu Cathedral หรือเทือกเขาพาสสุอันยิ่งใหญ่ตระการตา รับรองว่าภาพนี้จะถูกจดจำไปอีกนาน (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที)

  • เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

  • หลังจากนั้นเดินทางกลับเมือง กิลกิต (Gilgit) (ระยะทาง 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • เดินทางถึงเมือง กิลกิต (Gilgit) ศูนย์กลางของการปกครองเขต กิลกิต-บัลติสถาน (Gilgit-Baltistan) ดินแดนแห่งเทือกเขาคาราโครัมที่ยิ่งใหญ่

  • เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • ที่พัก โรงแรม Gilgit Serena

Gilgit SerenaPassu ValleyPassu Valley

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 6 : กิลกิต (Gilgit) – แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) ระยะทางนั่งรถ 90 กิโลเมตร

  • เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • สาย เดินทางสู่ แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) “ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย” เนื่องจากในภาษาเยอรมันเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “Merchenwiese” ซึ่งถูกตั้งชื่อด้วยนักปีนเขาชาวเยอรมัน แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) ติดอันดับสถานที่สวยที่สุดของโลกเป็นอันดับที่ 3 ทุ่งหญ้าแห่งนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,300 เมตร ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าด้านข้าง มีธารน้ำแข็ง Raikot มองเลยจากป่าไปจะเห็น ยอดเขานังกาพาร์บัต (Nanga Parbat) ยอดเขาสูงอันดับ 9 ของโลก

  • ยอดเขานังกาพาร์บัต (Nanga Parbat) มีความสูง 8,126 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชื่อมีความหมายว่า “ยอดเขาเปลือย” แต่คนกลับรู้จักกันในนาม “ยอดเขาเพชรฆาต”

  • การเดินทางสู่ แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) เป็นลักษณะดังนี้

  • ใช้พาหนะหลักเดินทางจากสนามบินมาถึง Raikot bridge (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง)

  • หลังจากนั้นนั่งรถ Jeep ที่สะพาน Raikot bridge ข้ามแม่น้ำสินธุ วิ่งเข้าสู่หมู่บ้าน Tatto valley (ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)

  • หลังจากนั้นเป็นการ Trek ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลา 3.5 – 4 ชั่วโมง (Elevation Gain 700 m. / Altitude 3,300 m) หรือหากท่านไม่อยากเดินก็สามารถเลือกขี่ม้าลัดเลาะตามสันเขา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละประมาณ 3000 – 3500 รูปี ทางเดินเรื่อยๆ ไม่ชันมาก คนอายุเยอะสามารถเดินได้ จะมีบางจุดที่ทางแคบหน่อย แต่ไม่อันตราย จนถึงที่พัก Raikot Sarai Hotel

  • เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง

  • บ่าย เดินทางถึง Fairy Meadow นำสัมภาระเก็บเข้าที่พักให้เรียบร้อย พาท่านนำไปชมวิวโดยรอบๆ แฟรี่มีโดวส์ (Fairy Meadow) วิวทุ่งหญ้า พร้อมชมยอดเขา Nanga Parbat ที่รายล้อมด้วยป่าสน

  • ที่พัก Raikot Sarai Hotelหรือเทียบเท่า

  • เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

Nanga Parbatแฟรี่ มีโดว์

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 7 : แฟรี่มีโดว์ (Fairy Meadow)

  • เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • เดินทาง Trekking สู่ Beyal Camp ระหว่างทางชมดอกไม้ป่าและลำธารที่สวยงาม ชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ในบรรยากาศที่คล้ายกับหมู่บ้านเล็กๆในทวีปยุโรป ท่านจะได้เห็นยอดนังการ์พาร์บัตและธารน้ำแข็ง Raikot อย่างใกล้ชิด

  • ระยะทาง 4.2 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง ทางเรียบเป็นส่วนใหญ่ ชันเล็กน้อยบางระยะ

  • เที่ยง รับประทานอาหารระหว่างทาง

  • ส่วนเสริม สำหรับท่านที่สภาพร่างกายพร้อม ท่านอาจจะเดินทางต่อสู่ Nanga Parbat Base camp ซึ่งจะมีระยะทางไปกลับประมาณ 16 กิโลเมตร หรืออาจจะแวะประมาณครึ่งทางที่ Nanga Parbat Viewpointหลังจากนั้นเดินทางกลับที่พักโดยใช้เส้นทางเดิม

  • ที่พัก Raikot Sarai Hotel 

  • เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

แฟรี่ มีโดว์Raikot Sarai Hotel

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 8 : แฟรี่มีโดว์ (Fairy Meadow) – นารัน (Naran) ระยะทางนั่งรถ 170 กิโลเมตร

  • เช้า รับประทานอาหารภายในที่พัก

  • สายๆ นำท่านลงจาก แฟรี่มีโดว์ (Fairy Meadow) ด้วยการเดินแล้วต่อด้วยรถจี๊ปโบกมืออำลา “ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย” โดยเราจะเดินทางไปยัง เมืองนารัน (Naran) ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง

  • เดินผ่านทาง ช่องเขาบาบูร์ซา (Babusar Pass) ที่ระดับความสูง 4,173 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากข้อเท็จจริงที่ว่าจักรพรรดิโมกุล Babur Babur เคยผ่านบริเวณนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้มักเรียกกันว่า Babusar Top

  • พัก รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

  • แวะจุดชมวิว Lulusar Lake Viewpoint

  • บ่าย เดินทางถึง เมืองนารัน (Naran) เป็นเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหุบเขาคากันตอนบนในเขตมานเซห์ราของจังหวัดไคเบอร์ เมืองนารันตั้งที่ระดับความสูง 2,409 เมตร (7,904 ฟุต) อยู่ห่างจาก Babusar Pass ประมาณ 65 กิโลเมตร นารันแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

  • เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • ที่พัก โรงแรม Millennium Inn Hotel หรือเทียบเท่า*

Millennium Inn HotelMillennium Inn Hotel

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 9 : นารัน (Narna) – ตักศิลา (Taxilla) – อิสลามาบัด (Islamabad) ระยะทางรวมประมาณ 300 กิโลเมตร

  • เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม

  • วันนี้เราจะออกเดินทางในช่วง 07.00 – 08.00 น. เนื่องจากเป็นการเดินทางระยะทาง 250 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง สู่เมืองตักศิลา

  • รับประทานอาหารเที่ยง ระหว่างทาง

  • บ่าย เดินทางถึงเมือง เมืองโบราณตักศิลา (Taxila) เป็นเมืองที่ได้รับมรดกโลก อายุกว่า 3,000 ปี ชมพิพิธภัณฑ์เมืองตักศิลายูเนสโกได้ให้ความสำคัญและยกย่องเป็นมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ ตักศิลาเป็นเมืองโบราณที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในช่วงต้นของพุทธศาสนามาจนถึงรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชที่ได้วางรากฐานการพัฒนาเมืองและทำรุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างแข็งขันจนเมืองตักศิลาเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมและประติมากรรมเก่าแก่ของพุทธศิลป์ในสมัยคันธาระ จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของการล่มสลายในช่วงเวลาถัดมา

  • จากนั้นเดินทางสู่เมืองหลวงอิสลามาบัด ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

  • ชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ถูกสร้างโดยกษัตริย์ Faisal bin Abdul-Aziz แห่งซาอุดิอาระเบีย และออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ผู้ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรม Agha Khan Award ซึ่งลักษณะของมัสยิดแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายกับเต็นท์ของชาว Bedouin ในทะเลทราย มัสยิดแห่งมีนี้ขนาดใหญ่โดยสามารถบรรจุผู้เข้าร่วมภายในโดมได้ถึง 10,000 คน  โดยมีฉากหลังของมัสยิดเป็น Margalla Hills มัสยิดแห่งนี้มีความสวยงามอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น

  • เย็น รับประทานอาหาน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

  • 19.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติอิสลามาบัด (Islamabad International Airport) เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพ

  • 23.20 น. เดินทางสู่กรุงเทพด้วย สายการบินไทย TG 350

TaxilaTaxila

xx สิงหาคม พ.ศ. 25xx วันที่ 10  : กรุงเทพ

  • 06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างสวัสดิภาพ

    สังเวชนียสถาน

  • Included

    บัตรโดยสารสายการบินไทย รวมค่าภาษีและธรรมเนียมน้ำมันชั้นประหยัด ในทุกเส้นทางที่ระบุไว้ 

    ค่าวีซ่าประเทศปากีสถาน

    ค่าห้องพักตามโรงแรมที่ระบุไว้หรือเทียบเท่า ในห้องพักชนิด Double/Twin room

    ค่าพาหนะเดินทางเป็น Toyota Coaster ขนาด 25 ที่นั่ง

    ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม

    ค่าผ่านเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม 

    ประกันการเดินทางของบริษัท AWP Services แผนประกัน Oasis Leisure 

    ค่าทีมงานท้องถิ่น 

    ค่าทีมงานไทยดูแลตลอดการเดินทาง

  • Not Included

    ค่าเครื่องดื่มส่วนตัว 

    ค่าของใช้ส่วนตัว

    ค่าทิปไกด์คนไทย

    ค่าลูกหาบ

    ค่าขี่ม้า



thepudomdham brand logo
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า Trustmarkthai
© 2025 เทพอุดมธรรม ทราเวล
TAT LICENSE