รุวันเวลิสยาเจดีย์ อนุราธปุระ

รุวันเวลิสยาเจดีย์ อนุราธปุระ

เจดีย์รุวันเวลิ หรือ มหาถูปา หรือ สุวรรณมาลิกเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองอนุราชปุระ มีขนาดกว้าง 100 เมตร สูง 100 เมตร เป็นเจดีย์ทรงกลมฟองน้ำ มีกำแพงประดับด้วยช้างหินล้อมรอบรวม 362 เชื่อก มีเนื้อที่ 12.5 ไร่ ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะมีพระประสงค์จะสร้างพุทธสถานอีกแห่งหนึ่งตรงบริเวณที่เป็นเจดีย์รุวันเวลิในเวลาต่อมา และพระมหินทเถระได้พยากรณ์การก่อสร้างไว้ให้ แต่ยังมิทันได้สร้าง พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน เจดีย์รุวันเวลิสร้างสำเร็จโดยพระเจ้าทุฎฐาคามีนีอภัย โดยพระเจดีย์รุวันเวลิสร้างเสร็จในวันที่พระองค์เสด็จสวรรคต

พระมหาเจดีย์รุวันเวลิ ชาวศรีลังกาเรียกกันหลายชื่อ เช่น สุวรรณมาลิกเจดีย์ รัตนมาลี เหมปาลี รุวันเวลิสยา พระมหาเจดีย์มีขนาดใหญ่ ปูด้วยก้อนหินภูเขา โดยใช้ช้างลากหินเหล่านั้นมา เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการสร้างช้างล้อมไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับช้างที่ได้ช่วยในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์นี้ด้วย

พระมหาเจดีย์รุวันเวลิ ประวัติความเป็นมานั้น พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ได้ให้ดอกจำปากับพระมหินเถระ พระมหินเถระจึงโปรยดอกไม้ลงไปในแผ่นดินบริเวณหนึ่งแผ่นดินก็ไหว พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่าเหตุใดแผ่นดินจึงไหว พระเถระทูลตอบพระราชาว่า ณ บริเวณนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์อันไม่มีใครเหมือนเลย พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่าใครจะเป็นผู้สร้าง พระเถระทูลว่าไม่ใช่พระองค์สร้างแต่จะเป็นพระนัดดา(หลาน)คือพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัยเป็นผู้สร้างพระมหาเจดีย์นี้

สมัยต่อมาในสมัยของพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย พระองค์ได้ทรงทำสงครามกับพระราชาชาวทมิฬและทรงได้รับชัยชนะ จึงได้สร้างพระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยาไว้เป็นอนุสรณ์ และภายในก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย ซึ่งพระมหาเจดีย์นี้เองเมื่อถึงคราวสิ้นพระศาสนา พระบรมสารีริกธาตุจากที่ต่างๆจะมารวมตัวกันที่พระมหาเจดีย์นี้และไปสู่นาคเจดีย์และท้ายสุดไปรวมกันที่โพธิบัลลังค์ ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้าอีกครั้งแต่ไม่มีมนุษย์เหล่าใดเห็นเลย และเตโชธาตุคือไฟก็ลุกโชนพระบรมสารีริกธาตุหมดไม่เหลืออันเป็นการอันตรธานของพระศาสนาอย่างสิ้นเชิง

พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยา ชาวศรีลังกาเรียกกันหลายชื่อ เช่น สุวรรณมาลิกเจดีย์รัตนมาลี เหมปาลี รุวันเวลิสยา พระมหาเจดีย์มีขนาดใหญ่ ปูด้วยก้อนหินภูเขา โดยใช้ช้างลากหินเหล่านั้นมา เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการสร้างช้างล้อมไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับช้างที่ได้ช่วยในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์นี้ด้วย

พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยา ประวัติความเป็นมานั้น พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ได้ให้ดอกจำปากับพระมหินเถระ พระมหินเถระจึงโปรยดอกไม้ลงไปในแผ่นดินบริเวณหนึ่ง แผ่นดินก็ไหว พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่า เหตุใดแผ่นดินจึงไหว พระเถระทูลตอบพระราชาว่า ณ บริเวณนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ อันไม่มีใครเหมือนเลย พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่าใครจะเป็นผู้สร้าง พระเถระทูลว่า ไม่ใช่พระองค์สร้างแต่จะเป็นพระนัดดา (หลาน) คือ พระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย เป็นผู้สร้างพระมหาเจดีย์นี้

สมัยต่อมาในสมัยของพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย พระองค์ได้ทรงทำสงครามกับพระราชาชาวทมิฬและทรงได้รับชัยชนะ จึงได้สร้างพระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยาไว้เป็นอนุสรณ์ และภายในก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย ซึ่งพระมหาเจดีย์นี้เองเมื่อถึงคราวสิ้นพระศาสนา พระบรมสารีริกธาตุจะมารวมตัวกันที่พระมหาเจดีย์นี้ และไปสู่นาคเจดีย์ และท้ายสุดไปรวมกันที่โพธิบัลลังค์ ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้าอีกครั้ง แต่ไม่มีมนุษย์เหล่าใดเห็นเลย และเตโชธาตุคือ ไฟก็ลุกโชนพระบรมสารีริกธาตุหมดไม่เหลือ อันเป็นการอันตรธานของพระศาสนาอย่างสิ้นเชิง

thepudomdham brand logo
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า Trustmarkthai
© 2024 เทพอุดมธรรม ทราเวล
TAT LICENSE