พระมหาเจดีย์รุวันเวลิ ชาวศรีลังกาเรียกกันหลายชื่อ เช่น สุวรรณมาลิกเจดีย์ รัตนมาลี เหมปาลี รุวันเวลิสยา พระมหาเจดีย์มีขนาดใหญ่ ปูด้วยก้อนหินภูเขา โดยใช้ช้างลากหินเหล่านั้นมา เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการสร้างช้างล้อมไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับช้างที่ได้ช่วยในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์นี้ด้วย
พระมหาเจดีย์รุวันเวลิ ประวัติความเป็นมานั้น พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ได้ให้ดอกจำปากับพระมหินเถระ พระมหินเถระจึงโปรยดอกไม้ลงไปในแผ่นดินบริเวณหนึ่งแผ่นดินก็ไหว พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่าเหตุใดแผ่นดินจึงไหว พระเถระทูลตอบพระราชาว่า ณ บริเวณนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์อันไม่มีใครเหมือนเลย พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่าใครจะเป็นผู้สร้าง พระเถระทูลว่าไม่ใช่พระองค์สร้างแต่จะเป็นพระนัดดา(หลาน)คือพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัยเป็นผู้สร้างพระมหาเจดีย์นี้
สมัยต่อมาในสมัยของพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย พระองค์ได้ทรงทำสงครามกับพระราชาชาวทมิฬและทรงได้รับชัยชนะ จึงได้สร้างพระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยาไว้เป็นอนุสรณ์ และภายในก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย ซึ่งพระมหาเจดีย์นี้เองเมื่อถึงคราวสิ้นพระศาสนา พระบรมสารีริกธาตุจากที่ต่างๆจะมารวมตัวกันที่พระมหาเจดีย์นี้และไปสู่นาคเจดีย์และท้ายสุดไปรวมกันที่โพธิบัลลังค์ ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้าอีกครั้งแต่ไม่มีมนุษย์เหล่าใดเห็นเลย และเตโชธาตุคือไฟก็ลุกโชนพระบรมสารีริกธาตุหมดไม่เหลืออันเป็นการอันตรธานของพระศาสนาอย่างสิ้นเชิง
พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยา ชาวศรีลังกาเรียกกันหลายชื่อ เช่น สุวรรณมาลิกเจดีย์รัตนมาลี เหมปาลี รุวันเวลิสยา พระมหาเจดีย์มีขนาดใหญ่ ปูด้วยก้อนหินภูเขา โดยใช้ช้างลากหินเหล่านั้นมา เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการสร้างช้างล้อมไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับช้างที่ได้ช่วยในการก่อสร้างพระมหาเจดีย์นี้ด้วย
พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยา ประวัติความเป็นมานั้น พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ได้ให้ดอกจำปากับพระมหินเถระ พระมหินเถระจึงโปรยดอกไม้ลงไปในแผ่นดินบริเวณหนึ่ง แผ่นดินก็ไหว พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่า เหตุใดแผ่นดินจึงไหว พระเถระทูลตอบพระราชาว่า ณ บริเวณนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ อันไม่มีใครเหมือนเลย พระราชาจึงได้ถามพระเถระว่าใครจะเป็นผู้สร้าง พระเถระทูลว่า ไม่ใช่พระองค์สร้างแต่จะเป็นพระนัดดา (หลาน) คือ พระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย เป็นผู้สร้างพระมหาเจดีย์นี้
สมัยต่อมาในสมัยของพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย พระองค์ได้ทรงทำสงครามกับพระราชาชาวทมิฬและทรงได้รับชัยชนะ จึงได้สร้างพระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยาไว้เป็นอนุสรณ์ และภายในก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย ซึ่งพระมหาเจดีย์นี้เองเมื่อถึงคราวสิ้นพระศาสนา พระบรมสารีริกธาตุจะมารวมตัวกันที่พระมหาเจดีย์นี้ และไปสู่นาคเจดีย์ และท้ายสุดไปรวมกันที่โพธิบัลลังค์ ปรากฏเป็นรูปพระพุทธเจ้าอีกครั้ง แต่ไม่มีมนุษย์เหล่าใดเห็นเลย และเตโชธาตุคือ ไฟก็ลุกโชนพระบรมสารีริกธาตุหมดไม่เหลือ อันเป็นการอันตรธานของพระศาสนาอย่างสิ้นเชิง