แสวงบุญไหว้พระ กราบพระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว แดนพุทธศาสนา ศรีลังกา
พระพุทธศาสนาในศรีลังกานั้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคหลายสมัย ซึ่งความเชื่อและความศรัทธาที่ฝังรากลึกของพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา ได้ทำให้พระพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้ยังคงอยู่และสืบต่อไป ดังเช่นคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “สังขารคือสิ่งที่มีอยู่และดับไป ส่วนความดีนั้น คือสิ่งที่จะอยู่ตลอดไปไม่มีวันดับ” นี่จึงเป็นเสน่ห์ที่คุณต้องมาเยือน
ทริปตามรอยพุทธศาสนาศรีลังกา
เป็นทริปตามรอยแหล่งกำเนิดพระพุทธศาสนาในเกาะลังกา ซึ่งตรงกับราชธานีแห่งแรกของชาวสิงหล อนุราธปุระ มหินตะเล โปโลนนารุวะ ราชธานีแห่งที่สองของเกาะ วัดถ้ำดัมบุลลา ซึ่งตั้งอยู่เกือบใจกลางของเกาะ พาท่านไปยัง อลุวิหาร สถานที่จารึกพระไตรปิฏกบนใบลานครั้งแรกในโลก แคนดีั้เมืองแห่งพระธาตุเขี้ยวแก้ว ตามรอยพระอุบาลี ผู้เผยแผ่นิกายสยามวงค์จนทำให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องจวบจนปัจจุบัน พาท่านชมโรงงานผลิตชา ชิมชาซีลอนอันเลื่องชื่อ ต่อด้วยโคลัมโบเมืองหลวงของเกาะในปัจจุบัน
ทริปไหว้พระศรีลังกา กราบบูชาพระธาตุเขี้ยวแก้ว
โคลัมโบ อนุราธปุระ แคนดี้ นูวาร่า เอลิยา เมืองกอลล์ กราบบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นกิ่งจากต้นตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ขึ้นบรรไดอรหันต์ที่มหินตะเล กราบพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วเมืองแคนดี้ ชมไร่ชา เที่ยวชมเมืองอาณานิคม Galle
สุมณกูฏ เส้นทางแห่งศรัทธา รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์
ศรีปาทะ ยอดเขาแห่งรอยเท้าอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นภูเขาที่ผู้คนเชื่อกันว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาบนเกาะลังกา จึงไม่แปลกใจที่ชาวพุทธผู้เต็มไปด้วยศรัทธาอย่าง จะถือเป็นหน้าที่สักครั้งในชีวิตที่ต้องมาแสวงบุญ ณ ที่แห่งนี้ ภูเขารูปโคนที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศศรีลังกา บนยอดเขาแห่งนี้มี “ศรีปาทะ” หรือ “รอยเท้าอันศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นก้อนหินขนาด 1.8 เมตร โดยในทางพุทธศาสนาเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาทซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า ทางศาสนาฮินดูเชื่อว่าเป็นรอยเท้าพระศิวะ ส่วนศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม ถือว่ามันเป็นรอยเท้าของอาดัม
รู้จัก “กอลล์” เมืองชายทะเลที่สวยและมีเสน่ห์ที่สุดของประเทศศรีลังกา
ย้อนเวลากลับสู่ยุคอาณานิคม กอลล์เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะกลิ่นอายของยุคอาณานิคมในอดีต เพราะเคยถูกปกครองโดยชาติตะวันตกมายาวนานกว่า 100 ปี ทำให้ที่นี้มีมรดกยุคอาณานิคมหลงเหลือให้เยื่ยมชมมากมาย เช่น ป้อมปราการเมืองกอลล์ (Galle Fort) หนึ่งในแหล่งมรดกโลก หรือ Dutch Reformed Church หนึ่งในโบสถ์นิกายโปรเตสแตนด์ที่เก่าแก่ที่สุดในศรีลังกา รอบๆ เมืองก็ยังมีร้านบูติก คาเฟ่และแกลเลอรี่เก๋ๆ ให้เยี่ยมชมมากมาย
พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา
สิกิริยา มีประวัติความเป็นมายาวนาน นับตั้งแต่พุทธปรินิพพานได้ 277 ปี พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ ได้เสด็จประพาสและตั้งชื่อภูเขาแห่งนี้ว่าสีหคีรี ซึ่งแปลว่า เขาสิงห์ ต่อมาใน พ.ศ.440-454 พระเจ้าปุลหัตถะได้สร้างป้อมพร้อมศาลาโรงธรรมไว้ที่นี่ ในรัชสมัยของพระเจ้าพาหิยะได้สืบทอดเจตนารมณ์ของพระราชบิดาโดยการสร้างโรงทานสำหรับพระภิกษุ จนมาถึงในรัชสมัยพระเจ้ากัสสปะ พ.ศ.1020 ได้ทรงสร้างสีหคีรีนี้เป็นป้อมปราการและเป็นพระบรมมหาราชวังด้วย
มหินตเล สถานที่พระมหินทเถระ ก้าวพระบาทแรกลงบนเนินยอดเขาหิน และเป็นสถานที่สุมนสามเณรกล่าวชุมนุมเทวดา
มหินตะเล เป็นบุณยเขตสำคัญสูงสุดแห่งหนึ่งของลังกา เหตุเพราะเป็นสถานที่แห่งแรกที่พระพุทธศาสนาประดิษฐานบนผืนเกาะลังกา โดยพระสมณทูตมหินทเถระ ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราชแห่งภารตประเทศ สมัยต่อมาอารามแห่งนี้ก่อเกิดพัฒนาการกลายเป็นวัดป่าอรัญวาสีมีพระสงฆ์จำพรรษาประมาณ 2,000 รูป ถือว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาสำคัญแห่งหนึ่งของลังกา ทุกวันเพ็ญเดือนเจ็ดของทุกปี ชาวพุทธลังกาจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมุ่งหน้ามามิหินตะเลแห่งนี้ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณูปการของพระมหินทเถระ เรียกกันว่า วันโปสอนบูชา ( Poson Puja Day ) การเดินขึ้นยอดเขามหินตะเลนั้น จะต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 1,840 ขั้น มีอายุราว 1,500 ปี แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ซึ่ง 2 ข้างทางจะมีต้นลีลาวดี ( ภาษาสิงหลเรียกชื่อว่า ต้นอะละริยะ ) อยู่ตลอด ส่วนอีกด้านหลังอัมพัสถลเจดีย์มีศาสนสถานสำคัญเรียกว่า “ โขดหินอาราธนา ( สุมนคะละ ) ” กล่าวกันว่าก่อนแสดงธรรมเทศนาโปรดกษัตริย์ลังกาและข้าราชบริพาร พระมหินทเถระแนะนำให้สมุนสามเณรอรหันต์ขึ้นไปป่าวประกาศให้ทวยเทพเทวดามาฟังธรรม ถัดจากอัมพัตถเจดีย์ต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 739 ขั้นจึงจะถึง “ มหาแสยเจดีย์ ” เชื่อกันว่าเป็นสถานที่พระมหินทเถระย่างเหยียบผืนเกาะลังกาเป็นครั้งแรก ต่อมากลายเป็นหนึ่งในโสฬสบุณยสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวลังกา ภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอัฐิธาตุของพระมหินทเถรเจ้า มีความสูงวัดได้ 15 เมตร วัดขนาดโดยรอบ 41 เมตร บริเวณลานรอบพระเจดีย์เป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็นตัวเมืองเก่าอนุราธปุระและบริเวณโดยรอบ